วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Social Media Platform ตัวใหม่



ข้อมูลจาก Rippln4Thai

Rippln คืออะไร (วิสัยทัศน์ของเราต่อ Rippln)

Rippln คืออะไร
บทความนี้จะสรุปให้ฟังโดยย่อว่า Rippln คืออะไร มันจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตเราอย่างไร และโอกาสที่มากับมันคืออะไร
ที่มาของแนวคิด
ทุกวันนี้กระแสความนิยมของผู้บริโภคเริ่มใช้ SmartPhone มากขึ้น เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือที่ทำให้มันมีขนาดเล็กลง แต่มีความสามารถมากขึ้น ทำให้มีปริมาณการใช้อุปกรณ์ประเภท SmartPhone และ Tablet เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
Rippln แอพ
กระแสความนิยมการใช้ SmartPhone และ Tablet ได้สร้างฐานลูกค้าขนาดมหาศาลที่มีทั่วโลก บริษัทผู้ผลิต Software และ Application ก็ได้ตามเข้ามาทำธุรกิจบนฐานลูกค้ากลุ่มนี้ ดังจากที่เห็นได้ว่าค่าย Apple ก็มี iTunes, Apple Store ค่าย Android ก็มี Google Play นั่นเพียงแค่แบ่งตามผู้ผลิต OS หรือซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการเท่านั้น ถ้ามองในมุมของยี่ห้อของอุปกรณ์เหล่านี้ เช่น Samsung, Blackberry หรือในมุมของผู้ให้บริการอย่าง AIS, DTAC, True ต่างก็มี Store หรือ “ร้านค้าออนไลน์” เป็นของตนเอง นี่คงไม่ต้องอธิบายมากว่าฐานลูกค้ากลุ่มนี้มันหอมหวลสำหรับผู้ผลิต Software, Hardware และผู้ให้บริการต่างๆ มากมายแค่ไหน
แต่ถ้าท่านลองสังเกตดูดีๆ สินค้าที่อยู่บนร้านค้าออนไลน์พวกนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มดังนี้
  • แอพ (Application – โปรแกรมประยุกต์) ในรูปแบบต่างๆ
  • เกมส์ ทั้งแบบเล่นคนเดียว และเล่นหลายคนใน Network
  • e-Book หนังสือ/นิตยสาร/หนังสือพิมพ์
rippln ripple คืออะไร
Pattern เดียวกัน
สิ่งที่เหมือนกัน ที่ทำให้ผู้ผลิตสินค้าเหล่านี้สร้างรายได้มหาศาล (จากฐานลูกค้าอันมโหฬาร) และเจ้าของ Store เหล่านี้ก็มีความสุขจากค่าหัวคิวในการขายสินค้า ก็คือ
  • เป็น Freemium – มาจากคำว่า Free + Premium นั่นก็คือ แอพและเกมส์ส่วนใหญ่จะ download ฟรี แต่ข้างในนั้นจะเปิดโอกาสให้จ่ายเงินเพิ่ม เพื่อซื้อ version Upgraded หรือเพื่อไม่แสดงโฆษณา หรือเพื่อซื้อ item มาใช้ (เช่น เกมส์ต่างๆ) เหล่านี้เรียกว่า “In-App Purchase” (คือเข้าไปซื้อของเมื่อได้ใช้แอพนั้นแล้ว) บริษัทผู้ผลิตแอพและเกมส์เขามีรายได้จากตรงนี้ครับ เช่น เกมส์ Clash of Clans มีคนซื้อ item ในเกมส์เป็นมูลค่าวันละ 1 ล้านเหรียญ (ประมาณวันละ 30 ล้านบาท โดยที่เขาไม่ต้องมีต้นทุนสำหรับ item พวกนี้เลย เพราะมันเป็นสิ่ง “เสมือน” ที่อุปโลกขึ้นมาในโลกออนไลน์)
  • ขยายฐานผู้ใช้โดยวิธีการบอกต่อ – เมื่อเกมส์นี้เล่นสนุก..เราก็บอกเพื่อน ถ้าเราใช้ Line แล้วชอบ..เราก็บอกเพื่อน คนผลิต Line มีรายได้จากไหน..ก็จาก Sticker ไงครับ แล้วก็ค่า license ที่ใครก็ตามที่อยากผลิต Sticker Line ออกขายบ้างต้องจ่ายค่าแฟรนไชส์ให้ Line ก่อน
จุดหลักมันมีอยู่แค่นี้เอง ทำแอพหรือเกมส์ดีๆ มาอย่างหนึ่ง ออกแบบให้คนอยากอวด อยากโชว์ อยากมีเพื่อนร่วมเล่น (ลองนึกถึง Instagram, Line, Facebook – แหม..ว่าจะไม่แตะแล้ว) แล้วก็ให้คนบอกต่อ แล้วหลังจากนั้นก็ตามไปขาย Ads, item, upgrade ฯลฯ
พวกเขากำลังร่ำรวยจากการใช้ทรัพย์สินแฝงของเรา
ทรัพย์สินแฝง (Hidden Asset) ที่ผมว่าก็คือเครือข่ายของเรา ความสัมพันธ์และสังคมเพื่อนฝูงของเรา ความที่เรามีอิทธิพลต่อคนที่เรารู้จัก (บอกต่อแล้วเขาเชื่อ – ดาวน์โหลดบ้าง ซื้อตามบ้าง) ภาษาทางการเขาเรียกว่า Social Graph นี่คือสิ่งที่บริษัทพวกนี้กำลังใช้..ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าของเขาโดยแทบไม่ต้องออกแรง
อย่าเพิ่งมีทัศนคติเป็นลบกับบริษัทพวกนี้นะครับ มันแค่เป็นเพียงเรื่องของกลไลการตลาด, Social Media, Social Marketing
ในระบบทุนนิยมนั้น เงินจะไหลไปตามช่องที่มีรู เราไม่ต้องบ่น ตราบที่ทุกคนยังทำธุรกิจที่ถูกกฏหมาย มีศีลธรรม มีจรรยาบรรณ เราไปว่าใครไม่ได้
นี่แค่จับสังเกตให้เห็นเท่านั้นเอง ถ้าเราทำธุรกิจขายของบ้าง เรายังเดินไปขายในที่ที่มีคนซื้อเลย..จริงไหม
Rippln เห็นโอกาส และให้โอกาสกับเราทุกคน
วิสัยทัศน์ของ Rippln ก็คือ เขาเห็นว่าทรัพย์สินแฝงที่ผมพูดถึงนั้น “มีคุณค่า” และ “ควรค่า” ที่เจ้าของทรัพย์สิน (เช่นเราทุกคน) ควรได้ประโยชน์จากมัน ถ้ามีคนอื่นกำลังหารายได้จากมัน (ทรัพย์สินของเรา) เราควรเป็นส่วนหนึ่งของรายได้นั้นบ้าง
Rippln ก็เลยบอกว่า เอางี้..ถ้าใครมีเครือข่าย/เพื่อนฝูง/คนรู้จัก บอกให้เขารู้สิ แล้วในอนาคต..เมื่อ Rippln ทำแอพ/เกมส์/e-Book ออกมาขายบ้าง และเมื่อเกิด In-App Purchase เขาก็จะแบ่งรายได้ให้..ตามโครงสร้างของการแนะนำบอกต่อ (Social Graph) ของเรา
Rippln Social Graph
เปิดตัวอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
Rippln วางแผนเปิดตัวอย่างเป็นขั้นเป็นตอน คิดอย่างเป็นระบบ ก็เพื่อหวังว่าแนวคิดของเขาจะกลายเป็นจริงอย่างประสบความสำเร็จ
ภาพข่าวการเปิดตัวของ Rippln ที่ Dallas, Texas, USA
ในขั้นแรก Rippln เปิดตัวในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานี่เอง (เม.ย. 2556) ด้วยการเปิดให้ใช้ระบบในการ “เชื้อเชิญ” คนใกล้ตัว ให้เข้ามาอยู่วงใน เป็นคนแรกๆ
ลองนึกถึงว่าถ้าคุณเป็นคนแรกๆ ที่เข้าร่วม Facebook เมื่อหลายปีมาแล้ว ปริมาณผู้คนทั้งในเชิงความลึกและความกว้างที่คุณได้ส่งผลให้คนเข้ามาร่วมเล่น Facebook นั้นจะมโหฬารแค่ไหน คนที่คุณเคยบอกให้เขารู้จัก Facebook เมื่อ 7 ปีที่แล้ว เขาบอกต่อๆ ไป เรื่อยๆ อีกไม่รู้กี่ต่อ รวมแล้วเป็นคนกี่ล้านคน นับจากเฉพาะที่เริ่มต้นที่คุณ มันก็เหมือนขว้างก้อนหินลงไปน้ำที่นิ่ง แล้ววงกระเพื่อมของมันขยายแผ่ออกไปจนเต็มสระ (นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า Rippln – มาจาก Ripple หรือการกระเพื่อมของคลื่น)
ถัดไป ประมาณว่าปลายเดือน พ.ค. 56 Rippln จะปล่อย App ออกมาตัวหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่าคงเป็นประมาณเดียวกับพวก Whatsapp หรือ Line ที่ผู้คนใช้ติดต่อสื่อสาร และที่สำคัญ เชื้อเชิญให้เพื่อนๆ ได้รู้จักแอพตัวนี้
แอพตัวนี้ชื่อว่า Rippln Communicator (ถึงเวลาจะเปลี่ยนชื่อหรือเปล่าก็ไม่รู้) จะมี In-App Purchase เลยหรือไม่..ยังไม่มีข้อมูล แต่ที่แน่ๆ มันเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ของ Rippln ในการขยายฐานผู้ใช้ (ซึ่งก็คือเครือข่ายของท่านนั่นเอง…ถ้าท่านเข้ามาเป็นสมาชิกคนแรกๆ และบอกต่อนะครับ)
สิ่งที่ผมตั้งข้อสังเกตก็คือ ถ้าแอพตัวนี้ไม่มีอะไรโดดเด่น น่าใช้ หรือมีอะไรแปลกใหม่ไปกว่า Whatsapp หรือ Line ละก็…มันจะจอดสนิทอยู่ตรงนั้น
แผนต่อไปของ Rippln ก็คือ ผลิต App, e-Book และเกมส์ต่างๆ เอง แนะนำและบอกต่อกันในเครือข่ายของ Rippln นี่แหละ ซึ่งมั่นใจว่าใน phase นี้จะมี In-App Purchase แน่นอน
ยังไม่หมด แผนขั้นสุดยอดของ Rippln ก็คือ เมื่อตนเองมีฐานลูกค้ามหาศาลแล้วนี่ ก็จะชักชวนให้ผู้ผลิต App, e-Book และเกมส์ อื่นๆ เข้ามาฝากขายใน platform ของตัวเอง พูดง่ายๆ ก็คือทำตัวเป็น Apple Store, Google Play, PlayStore ฯลฯ กินหัวคิวจากผู้ผลิตแอพเหมือนร้านค้าออนไลน์ที่ผมเล่าให้ฟังแรกๆ นั่นแหละ แต่จะมาถึงขั้นนี้ได้ ต้องฝ่าด่านอรหันต์ phase ก่อนหน้านี้ให้ได้เสียก่อน อย่างที่เล่าไปแล้ว ถ้าฐานลูกค้าใหญ่พอ ก็มีแรงดึงดูด มีอำนาจต่อรองมากพอ ที่คนผลิตแอพอยากจะมาขายบน platform นี้
ช้าก่อน..ทุกอย่างไม่ได้ได้มาง่ายดายอย่างที่หลายคนคิดเอาเอง
นี่ไม่ใช่บ่อทองที่ทุกคนเห็นแล้วกระโจนเข้าใส่ได้เลย นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งและกอบโกย (หรือแค่ขอรับส่วนแบ่งก็เถอะ) โดยไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรเลย ต่อให้ท่านเห็นเหมืองทองอยู่ใต้บ้านท่านก็ตาม ท่านก็ยังต้องซื้อเครื่องมือขุดเจาะและแปรสภาพมัน..จริงไหม
โอกาส..ก็คือโอกาส วิสัยทัศน์..คือสิ่งที่เห็นรางๆ ว่าพอเป็นไปได้ แต่ทั้งหมดก็ต้องมีเป้าหมาย แผนการ และการลงมือทำ ไม่ใช่แค่เกาะตามกระแส คิดเพียงแค่จะทำตามคนที่มาบอก แล้วพอไม่ได้อย่างที่ “ฝันไปเอง” ไว้ ก็เที่ยวไปโทษคนโน้นคนนี้
ก็นะ..ผมแอบเห็นมาแล้วว่า คนที่จะมีส่วนร่วมในการรับรายได้จากส่วนแบ่ง commission ของ In-App Purchase ของคนในวงศ์วานของเรา ต้อง upgrade จาก FAN เป็น PLAYER
  • มีค่า Upgrade
  • และมีค่าใช้จ่ายรายเดือน
ผมถือคติอย่างหนึ่งที่ว่า มาก..หรือน้อย..ไม่สำคัญ ถูก..หรือแพง..ไม่มีในโลก มีแต่คำว่า..คุ้ม..หรือไม่คุ้ม
ถ้าค่า upgrade 500 บาท รายเดือน 100 บาท แต่ผมทำเงินได้เดือนละ 80 บาท แบบนี้ไม่คุ้ม
ถ้าค่า upgrade 5,000 บาท รายเดือน 1,000 บาท แต่ผมทำเงินได้เดือนละ 100,000 แบบนี้เดือนละ 2,000 ผมก็จ่าย
เห็นภาพไหมครับ.. มันไม่ได้อยู่ที่ว่า โอ๊ย..ต้องเสียเงิน โอ๊ย..ต้องมีค่าใช้จ่าย โอ๊ย..รายเดือนด้วย โอ๊ย..จะบ่นทำไม มันอยู่ที่ว่าทุกอย่างก็กลับไปเป็นธุรกิจอยู่ดี ก็ใครจะเอาเงินมาให้เราใช้ฟรีๆ ล่ะครับ คิดในทำนองกลับกัน คนที่จะสร้าง platform ขนาดมหึมาแบบนี้ให้เราใช้ เขาก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการเหมือนกัน ต้องจ้างพนักงานเหมือนกัน ต้องเช่าเซิร์ฟเวอร์และพัฒนาซอฟต์แวร์ตลอดไปเหมือนกัน
เรื่องรายได้… Rippln บอกว่า
 Rippln บอกว่ารายได้จากการขยายเครือข่าย Rippln จะมี 2 รูปแบบ
  1. รายได้ที่เกิดจากการที่คนในเครือข่ายของเรา upgrade เป็นระดับ PLAYER
  2. รายได้ส่วนแบ่งจากค่าคอมมิชชั่นที่เกิดจาก In-App Purchase
นั่นไงหละ..ก็ยังมีกลิ่นของความเป็น MLM ติดอยู่นิดหน่อยตรงข้อ 1.
แต่ข้อ 2. ไม่มีความเป็น MLM โดยสิ้นเชิง เพราะเราจะยืนอยู่ในทัศนคติที่ไม่ push ไม่ผลักดันให้คนในเครือข่ายต้องซื้อสินค้า(เหมือนการรักษายอดใน MLM) แต่เราจะปล่อยวาง ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของกฏการบอกต่อตามรูปแบบ Social Media & Social Marketing ใครจะซื้อก็ช่าง ไม่ซื้อก็ช่าง ขอให้เครือข่ายวงศ์วานของเราใหญ่ไว้ก่อน เดี๋ยวโดยสถิติมันก็ได้ของมันขึ้นมาเอง
โดยสถิติแล้ว ของที่เป็น Freemium จะมีคนซื้อของต่อยอด (In-App Purchase) ในสัดส่วนประมาณ 3-4% แต่ถ้ามันเป็น 3-4% ของคนเป็นหมื่นใต้เรา คนโน้นซื้อนั่น คนนั้นซื้อนี่ คนละหนุบคนละหนับ เราก็ได้ขึ้นมาเอง เท่าที่เห็น เขาจ่ายค่าคอมฯ ให้เราถึง 10 ชั้นลึก นั่นแปลว่า ใครที่สร้างเครือข่ายได้กว้างและลึกย่อมได้เปรียบ อยู่ที่ว่าเรากระตุ้นให้คนถัดๆ ไปจากเราเขาขยายเครือข่ายลึกลงไปให้เราหรือเปล่า และเราเป็นคนแรกๆ หรือเปล่า
อ้อ..ลืมบอกไปว่า คนที่จะซื้อของ In-App Purchase นั้นไม่จำเป็นต้อง upgrade เป็น PLAYER – ใครก็ได้ สมาชิกฟรี (FAN) ทั้งหลายนั่นแหละ ถ้าเขาเกิดจาก ripple ของเรา เขาจับจ่ายใช้สอย ถ้าเราเป็น PLAYER เราก็ได้ค่าคอมฯ ด้วย
นี่จึงเป็นสาเหตุให้คนที่มีวิสัยทัศน์ เห็นโอกาส และคว้าไว้ก่อน ก็ในเมื่อตอนนี้มันสมัครเป็น FAN ได้ฟรีๆ มันก็ง่ายที่จะบอกต่อแล้วให้เพื่อนๆ และคนรู้จัก สมัครตาม สร้างเป็นเครือข่ายวงศ์วานไว้ เราไม่จำเป็นต้องไปหวังรายได้จากค่า upgrade เป็น PLAYER ของคนในเครือข่ายเรา เราปล่อยวางตรงนี้ก็ได้ ถ้าเรามั่นใจว่าสุดท้ายแล้วเครือข่ายของเราใหญ่พอ เรารอรับจากข้อ 2 ก็ได้ ไม่ต้องออกแรงด้วย เพราะอย่างที่บอกว่าเป็นพฤติกรรม Social ตามธรรมชาติ (แต่เราต้อง upgrade ตัวเองเป็น PLAYER นะ)
ภาพคร่าวๆ ของแผนรายได้ Rippln
สิ่งที่ผมแนะนำ
สมัครไว้ก่อน ฟรีนี่ แล้วก็ขยายเครือข่ายออกไป เครื่องมือในการประชาสัมพันธ์และสื่อสารโอกาส/วิสัยทัศน์ก็มีให้หมดแล้ว เชิญคนเข้าร่วมก็ง่ายเพราะมันฟรี และฟังดู WORK
หลังจากนั้น เราค่อยมาดูว่าเครือข่ายของเราใหญ่โตแค่ไหน Rippln จะมีเว็บสมาชิกให้เข้าไปดูได้ว่าเครือข่ายของเราขยายไปกี่ชั้นลึกแล้ว แต่ละชั้นมีกี่คน ถึงตอนนั้น เราค่อยประเมินดูว่า ด้วยจำนวนคนแค่นี้ จากสถิติ เราน่าจะได้ค่าคอมฯ เท่าไหร่ คุ้มกับค่า upgrade และรายเดือนไหม เราค่อย upgrade ทีหลังก็ได้
สุดท้าย..ระวังอย่าเหมือนซื้อหุ้นที่ยอดดอย
ผมพูดอยู่เสมอว่า เมื่อไหร่ที่เราเห็นว่าอะไรมันดี ดีแน่แท้แล้ว เมื่อนั้น..มันสายไปแล้ว ก็เหมือนคนเล่นหุ้นแหละ
  • ตอนที่ราคาถูก..ก็ไม่กล้าซื้อ..กลัวจะลงต่อ
  • พอมันเริ่มขยับขึ้น..ก็ยังไม่กล้า..เพราะกลัวไปต่อไม่จริง
  • พอสูงขึ้นมาอีก..ก็บอกว่า..มันสูงไปแล้ว..กลัวมันกลับหัว
  • พอสูงขึ้นมาใกล้ถึงยอด..ทนไม่ได้แล้ว..โอ้..ขึ้นมาได้ตลอดขนาดนี้..ซื้อเลยดีกว่า อุ้ย..ถึงยอดดอยพอดี..หุ้นลงซะงั้น :(
นัยหนึ่ง จากที่ผมแนะนำว่า รอดูว่าเครือข่ายของเราใหญ่แค่ไหน คุ้มไหมที่จะ upgrade เป็น PLAYER เพื่อรับเงิน แต่นี่ก็จะทำให้เรารอดู ปล่อยให้เครือข่ายของเราขยายแบบ Passive คือเป็นธรรมชาติมากเกินไปจนเราซึมหายกลายเป็นผู้บริโภคไปซะ..แทนที่จะเป็นนักธุรกิจ ดูยังไงเครือข่ายก็ไม่ใหญ่พอที่จะคุ้มทุน ก็เดี๋ยวจะไปโทษว่าธุรกิจนี้ออกมาหลอกลวง, model ไม่ work, ได้เงินไม่คุ้มเสียหรอก..ต่างๆ นานา
อีกนัยหนึ่ง ถ้าเราเห็นโอกาส และตั้งใจที่จะสร้าง และขยายมัน (เครือข่ายของเรา) เราก็ต้องลงมือทำอะไรบางอย่าง มีโอกาสอย่างนี้ไม่บ่อยที่จะ
  • เป็นคนแรกๆ ของการเริ่มสร้างเครือข่ายวงศ์วาน
  • มี “ส่วนได้” (Monetize) จากอิทธิพลเครือข่าย (Social Graph) ของเรา
  • ได้ทำธุรกิจที่ไม่ต้องบังคับขายของ (เพราะ In-App Purchase เกิดแบบธรรมชาติ ไม่มีใครบังคับ)
  • สร้างรายได้ต่อเนื่อง (Residual Income Stream) โดยไม่ต้องลาออกจากงาน (แค่ช่วงแรกออกแรงหน่อย..สร้างเครือข่ายให้ใหญ่ไว้)
ทั้งหมดนี้ เป็นความเห็นที่ผมมีต่อ Rippln จากข้อมูลมากที่สุดเท่าที่ผมมี จากประสบการณ์และการวิเคราะห์ของผมเอง ท่านไม่จำเป็นต้องคิดเหมือน เห็นเหมือน ใครมีข้อมูลดีๆ ก็เอามาแบ่งปันกัน คิดซะว่าเพื่อประโยชน์ของคนอื่น ไม่ต้องคิดว่าจะต้องโต้แย้งความคิดกัน เอาข้อมูล (ที่ตรวจสอบแล้ว) มากองตรงกลาง แล้วแต่ละคนก็พิจารณาเอาครับ

แด่ความสำเร็จของทุกท่าน
ธนกร – ThaiMLMcenter.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น